20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 บริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Lufthansa ROW G เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุววรณภูมิ โดยสายการบิน Lufthansa เที่ยวบินที่ LH773 *กำหนดการเดินทางช่วง 21 ต.ค. เป็นต้นไป เวลาบินปรับเป็น 23.40 น.*
05.20 น. เดินทางถึงสนามบินมิวนิค Munich ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร *กำหนดการเดินทางช่วง 21 ต.ค. เป็นต้นไป เวลาบินถึงสนามบินมิวนิคปรับเป็น 06.00 น.*
รถโค้ชรอรับท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิวนิค Munich อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็น 1 ในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป มีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรมและอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ ระหว่างทางพาท่านแวะเก็บภาพสวยๆ กับสนามฟุตบอลอัลลิอันซ์อรีนา Allianz Arena สนามเหย้าทีมฟุตบอลดังบาเยิร์นมิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่จากบุนเดสลีกา มีใหญ่เป็นดันดับ 2 ของประเทศเยอรมัน จุผู้ชมได้ถึง 75,000 คน ด้วยทุนสร้างกว่า 340 ล้านยูโร เก็บภาพเพิ่มเติมกับพระราชวังนิมเฟนบวร์ก Nymphenburg Palace พระราชวังฤดูร้อนแห่งราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ ตัวพระราชวังได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศูนย์รวมแบบอย่างงานศิลป์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป จัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดนิยม และเก็บภาพกับอุทยานโอลิมปิก Olympic Park สถานที่ที่เคยใช้จขัดมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อนในปี ค.ศ.1972 เมื่อเสร็จสิ้นมหกรรม อุทยานแห่งนี้ถูกใช้เป็นสวนสาธารณะตลอดจนสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมต่างๆ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 530 ไร่
นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ Marienplatz ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น.
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองการ์มิซ หรือ การ์มิช พาร์เท่นเคียร์เช่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ทางตอนใต้สุดของประเทศเยอรมัน ชมบ้านเรือนสวยงามศิลปะแบบบาวาเรียน-ร็อคโคโค เมืองนี้แบ่งเป็น 2 เขต คือ เขต Garmisch และเขต Partenkirchen เมืองนี้งดงามด้วยภาพวาดบนกำแพงบ้านที่เดินชมไม่รู้เบื่อ ควบคู่กับการพบเจอชาวเมืองที่ยังใส่ชุดพื้นเมือง กางเกงสั้นแค่เข่า เสื้อปักลูกไม้ เป็นปกติวิสัย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมกีฬากลางแจ้งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เทนนิส กอล์ฟ ล่องแพ เล่นสเก็ต สกี ไปจนถึงสโนบอร์ดในช่วงหน้าหนาว นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟซุกสปิตเซ่ เพื่อโดยสารรถไฟไต่เขาเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ Zugspitze ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน ฉายา Top of Germany ให้ท่านชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดสองข้างทางจนถึงลานหิมะ และนำท่านเปลี่ยนเป็นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์เพื่อไต่ระดับสู่ระดับความสูง 2,970 เมตร ให้เวลาท่านเดินเล่นถ่ายรูปบนยอดเขาและชื่นชมความสวยงามของเทือกเขาแอลป์ได้บแบบ 360 องศาและบนยอดเขาซุกสปิตเซ่นั้นเป็นอีกหนึ่งพรมแดนทางธรรมชาติของเยอรมันและออสเตรีย (การขึ้น-ลงเขา ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ กรณีสภาพอากาศไม่ดีหรือมีลมแรง กระเช้าอาจปิดบริการ และเปลี่ยนไปใช้บริการการขึ้นและลงด้วยรถไฟไต่เขา) สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางลงจากยอดเขา และเดินทางเข้าสู่เขตเมืองการ์มิช-พาร์เท่นเคียเช่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel Mercure Garmisch-Partenkirchen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศออสเตรียที่เมืองซาลส์บวร์ก Salzburg ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านชมเมืองซาลสเบิร์ก Salzburg เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปินเพลง และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง The Sound of Music ที่โด่งดัง รวมถึงยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นำท่านเดินข้ามแม่น้ำซาลสอัคช์เพื่อเดินเล่นชมเมืองเก่า สู่จัตุรัสกลางเมืองเพื่อถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีย์โมสาร์ต ชมมหาวิหารใหญ่กลางเมืองหรือมหาวิหารแห่งเมืองซาลสเบิร์ก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเรอเนอซองส์ตอนปลายต่อบาร็อคตอนต้น ถือเป็นโบสถ์บาร็อคยุคแรก โดยสร้างขึ้นใหม่เพื่อแทนโบสถ์หลังเดิมที่ถูกไฟไหมใหญ่จนเกินซ่อมแซมและถูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถล่มเสียหาย แต่ต่อมาได้รับการบูรณะให้งดงามดังเดิม เดินเล่นบนถนนเกไตรเด้ ที่มีบ้านเรือนเรียงราย ซึ่งถูกสร้างขึ้นช่วงในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่นคือมีลานบ้านที่มีหลังคาสวยงาม ป้ายเหล็กที่บ่งบอกชื่อร้านค้าหรือบ้านเรือนที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างที่เป็นภาพปูนแกะสลัก ปัจจุบันเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีร้านค้าแบรนด์เนมมากมายและเป็นที่ตั้งของบ้านเกิดของโมสาร์ต ที่เพิ่งฉลองครบรอบ 250 ปีเมื่อปี 2006 ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วย โมสาร์ทเกิดที่นี่และอยู่ในบ้านเกิดแห่งนี้มากกว่า 20 ปี ต่อมาย้ายไปอยู่อีกหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้จึงถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อมา ซึ่งบ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบโดย Robert Wilson ศิลปินชาวอเมริกัน โดยมีการออกแบบให้เหมือนกับเมื่อครั้งที่โมสาร์ทยังมีชีวิตอยู่ ให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก (เทศบาลเมืองไม่อนุญาตให้นำรถบัสนำนักท่องเที่ยวเข้าในเขตบริเวณเมืองเก่า) รวมทั้งชมสวนมิราเบล ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ตลอดปีและยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ฮัลสตัท Hallstatt หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีความสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน อิสระให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามของเมืองและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูปลาเทร้าท์ฮัลสตัท
ที่พักนำท่านเข้าสู่ที่พักในเขตทะเลสาบกรุนซี MONDI Resort Am Grundlsee หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่สาธารณรัฐเชก เดินทางสู่เมืองมรดกโลก เชสกี้ ครุมลอฟ Cesky Krumlov นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 World Heritage (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูเป็ดโบฮีเมียน
บ่าย นำชมภายนอกของปราสาทครุมลอฟ Krumlov Castle จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา Valtawa River ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงปราก Prague เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเชก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาทและโรมแห่งอุดรทิศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่เขตเมืองเก่าสู่เขตถนนที่มีความสวยงามที่สุด Karlova Street ถนนสายหลักช้อปปิ้งใจกลางกรุงปราก ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย อาทิ เครื่องแก้วแบบโบฮีเมียน พร้อมชมความงดงามของบ้านเรือนในแบบบารอค รอคโคโครวมถึงสไตล์อาร์ตนูโว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตคารไทย
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel Expo Prague หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปกับหมู่ปราสาทแห่งปราก Prague Castle สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำท่านชมภายนอกของมหาวิหารเซนต์วิตุส St.Vitus Cathedral อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล Charles Bridge สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า Old town Hall ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ Astronomical Clock ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐสโลวัก เดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า Bratislava เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก Slovak ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของสโลวัก ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel Bratislava หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก นำท่านถ่ายรูปคู่กับปราสาทบราติสลาวา Bratislava Castle ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาว่า ชม โบสถ์สีน้ำเงิน Blue Castle โบสถ์ของศาสนาคริสนิกายโรมันคาทอลิคอีกแห่งหนึ่งที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างโดดเด่น ด้วยสีน้ำเงินของตัวอาคาร ตั้งอยู่โซนย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์มาร์ติน St. Martin’s Cathedral โบสถ์โกธิค สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นโบสถ์ที่ใช้สำหรับพิธีบรมราชาภิเษก บนยอดหอคอยของโบสถ์ ที่มีความสูง 85 เมตร ภายในมีรูปจำลองมงกุฎที่มีน้ำหนักถึง 150 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่ เพื่อเป็นสิ่งแสดงถึงอดีตที่เคยรุ่งโรจน์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศฮังการี Hungary นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงบูดาเปสต์ Budapest เมืองหลวงของประเทศฮังการี Hungary ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ให้ท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อนำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูเอกลักษณ์ซุปกูลาซ
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Leonardo Budapest หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมบริเวณ Castle Hill ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ และชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส Matthias Church ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ตัวโบสถ์สร้างแบบสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามแห่งศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ทางด้านหน้าป้อมชาวประมง Fisherman’s Bastion จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาเปสที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้เป็นอย่างดี ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศออสเตรียอีกครั้งโดยเดินทางสู่ Parndorf Outlet พรีเมี่ยมเอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆ อีกมากมาย สมควรแก่เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา Vienna เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองในเขตกรินซิ่ง พิเศษ!! เมนูซี่โครงหมูและหมูทอดเวียนนาพร้อมชมการแสดงพื้นเมือง
ที่พักนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Quality Vienna หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ Schoenbrunn Palace แห่งราชวงศ์ฮับสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านนั่งรถชมถนนสายวงแหวน Ringstrasse ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก Hofburg Palace ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ St. Stephen’s Cathedral สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน จากนั้นนำท่านสู่ย่านถนนคาร์นท์เนอร์ Karntnerstrabe ใจกลางกรุงเวียนนา เชิญช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Louis Vuitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara, H&M ฯลฯ และ รวมไปถึงสินค้าของฝาก เช่น ช็อคโกแล็ตโมสาร์ท โดยเฉพาะร้านเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ Swarovski Kristallwelten สินค้าที่มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 3 ชั้น มีการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกจากศิลปินที่มีชื่อระดับโลก เมื่อเข้าชมภายในอาคารจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีจำหน่ายทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องประดับต่างๆ, นาฬิกา หรือ ของใช้ที่มีการออกแบบตกแต่งด้วยสวาร็อฟสกี้อย่างหรูหราและลงตัว และมีเวลาให้ท่านเดินเล่นพักผ่อนกับคาเฟ่ หรือชิมเค้ก Sacher Cake เค้กเอกลักษณ์ของออสเตรีย
19.00 น. สมควรแก่เวลานำเดินทางสู่สนามบินเวียนนา เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี Tax Refund และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน *กำหนดการเดินทาง 29 ต.ค.-6 พ.ย. / 5-13 พ.ย.67 / 24 ธ.ค.67 – 1 ม.ค.68 เที่ยวบินขากลับเปลี่ยนเป็น เที่ยวบินที่ OS015 เวลาเดินทาง 20.15 น. ดังนั้นเวลาในการเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินปรับเป็น 16.00 น.*
23.35 น. ออกเดินทางจากสนามบินเวียนนา โดยสายการบิน Austrian เที่ยวบินที่ OS025 *กำหนดการเดินทางช่วง 21-29 ต.ค.67 เป็นต้นไป เวลาบินปรับเป็น 23.25 น.* *กำหนดการเดินทาง 29 ต.ค.-6 พ.ย. / 5-13 พ.ย.67 / 24 ธ.ค.67 – 1 ม.ค.68 เดินทางออกจากสนามบินเวียนนาเปลี่ยนเป็น เที่ยวบินที่ OS015 เวลาเดินทาง 20.15 น.*
14.50 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ. *กำหนดการเดินทางช่วง 21-29 ต.ค.67 เป็นต้นไป เวลาบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิปรับเป็น 15.30 น.* *กำหนดการเดินทาง 29 ต.ค.-6 พ.ย. / 5-13 พ.ย.67 / 24 ธ.ค.67 – 1 ม.ค.68 เที่ยวบินที่ OS015 จะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 12.20 น.*
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 23 ก.ก. (ท่านละ 1 ชิ้น), ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นประเทศออสเตรีย รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (16 ยูโร/ต่อท่าน)
7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (27 ยูโร/ต่อท่าน)
1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 40,000 บาท และค่าวีซ่า 5,900-. โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
39/498 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210