16.30 น.คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ M สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอํานวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
19.30 น. ออกเดินทางสู่ สต๊อกโฮล์มโดยเที่ยวบินที่ QR 835/QR 169 แวะพักและรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหาร และเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
06.35 น. คณะเดินทางถึง สนามบิน อาลันดา กรุงสต็อกโฮล์ม (Stockholm) เมืองหลวงของประเทศสวีเดน ซึ่งล้อมรอบด้วย ทะเลสาบมาร์ลาร์ จนได้รับสมญานามว่าเป็น นครแห่งน้ํา หรือ เวนิสแห่งยุโรป นําท่านผ่านพิธีการทางสนามบิน พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ รถโค้ชปรับอากาศพร้อมคนขับผู้ชํานาญเส้นทางรอรับท่านที่สนามบิน จากนั้นนําท่านเริ่มต้นการท่องเทียวที่จะทําให้ท่านประทับใจไปแสนนาน ด้วยการนําท่านชมความงามของกรุงสต็อกโฮล์ม จากนั้นนําท่านขึ้นสู่จุดชมวิว บนเนินเขาถนน FJALLGATAN ชมความสวยงามจากบนมุมสูงของ กรุงสต็อกโฮล์ม เมืองหลวงของประเทศสวีเดน ที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “ความงามบนผิวน้ํา” (Beauty on Water) หรือ “ราชินีแห่งทะเลบอลติก” เมืองแห่งประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ครั้งศตวรรษ ที่ 13 ศิลปะและสถาปัตยกรรมผสมผสานด้วยความสะดวกสบาย และทันสมัยของบ้านเมือง ตึกรามบ้านช่องรวมทั้งปราสาทราชวังตั้งอยู่ริมน้ําและตามเนินสูงต่ำ เกาะใหญ่น้อย 14 เกาะ ที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทําให้สต็อกโฮล์มเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จากนั้นนําท่าน เข้าชม ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮล์ม หรือ ซิตี้ฮอลล์ ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของ สวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และมุงหลังคาด้วยหินโมเสก สร้างเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 1911 ซึ่งใช้ปัจจุบันเป็นสถานที่ จัดงานเลี้ยงฉลองผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล ภายในห้อง GOLDEN HALL ที่ ประดับประดาด้วยโมเสกทองคํานับล้านชิ้น สวยงามวิจิตรตระการตายิ่งนัก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง) (มื้อที่ 1)
นําท่านเดินเล่น ย่านเมืองเก่ากัมล่าสแตน นําท่านชมพระราชวังหลวง พระบรมมหาราชวังสตอกโฮล์ม(Stockholms Slott) เป็นพระราชวังสไตล์บาโรก ตั้งอยู่ในเขต Old Town ของสตอกโฮล์ม ที่นี่สร้างขึ้นในช่วง ทศวรรษ 1700 โดยปัจจุบันเป็นที่พํานักอย่างเป็นทางการของราชวงศ์สวีเดน โดยพระราชวังสูง 7 ชั้นที่แบ่ง ออกเป็น 600 ห้อง จากนั้นให้ท่านเก็บภาพความประทับใจกันตามอัธยาศัย จากนั้นนําท่านเดินทางกันต่อสู่ เมืองคาร์สตัด (Karlstad) เมืองสวยริมทะเลสาบแวเนิร์น ประเทศสวีเดน ได้รับการขนานนามว่าไวกิ้งแห่งสแกนดิเนเวียผ่านทะเลสาบน้อยใหญ่แสนสวย ให้ท่านได้ผ่านชมวิวอันสวยงามตลอดสองข้างทางเมืองตากอากาศอันมีชื่อเสียง ของประเทศสวีเดน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)
พักค้างคืน ณ Scandic Karlstad City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนทีโรงแรม Buffet (มื้อที่ 3)
เดินทางสู่ กรุงออสโล เมืองที่ถูกสถาปนาขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อน ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งที่นอร์เวย์อยู่ในอารักขาของ อาณาจักรเดนมาร์ก นอร์เวย์ได้ย้ายเมืองหลวงถึง 2 ครั้งจากกรุงทรอนโฮลม์มาเป็นกรุงเบอร์เกนก่อนจะมาเป็นกรุง ออสโลในปัจจุบัน ตั้งอยู่ริมฝั่งออสโลฟยอร์ด เขตท่าเรือคึกคักไปด้วยผู้คน และนักท่องเที่ยว ระหว่างทางชมความ งามสองข้างทางสวยงามแปลกตาด้วยทิวทัศแบบสแกนดินเนเวียเป็นที่ราบสลับภูเขาสูงมีแม่น้ํา และทะเลสาบอยู่
ตลอดทางตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง) (มื้อที่ 4)
นําท่านชม อุทยานฟรอกเนอร์ หรือ สวนหิน (Frogner Park) อุทยานทางธรรมชาติที่มีประติมากรรมอันแสดงถึง ความเป็นอยู่สภาพชีวิต และการดิ้นรน ต่อสู้ของมนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นผลงานประติมากรชื่อดังของกุสตาฟ วิเกอร์ แลนด์ ชมผลงานน้ําพุวงจรชีวิตที่มีความหมายสอนใจ โดย เฉพาะเสาหิน “โมโนลิธ” กลางสวนที่สูงถึง 17 เมตรที่ เป็นรูปคนจํานวนมากมายปืนป่ายกันอยู่บนเสา และเป็นประติมากรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดซึ่งท่านไม่ควรพลาดชมใน หมู่ปฎิมากรรมทั้งหมด จากนั้นอิสระให้ท่านได้เดินเที่ยว ย่านคาร์ลโจฮันเกท ถนนคนเดิน และย่านช้อปปิ้งที่มี ชื่อเสียงของออสโล ตรงปลายถนนเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงสร้างโดยพระเจ้าชาร์ลที่ 3 ปัจจุบันเป็นที่ประทับ ของราชวงศ์ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่าง ๆ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารตั้งเรียงรายจนสุดถนน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
พักค้างคืน ณ Radisson Blu Alna หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนทีโรงแรม (มื้อที่ 6)
นําท่านเดินทางสู่ เมืองเกโล เกโลเป็นเมืองสกีสอร์ทที่มีศูนย์สกี 2 แห่งและอยู่ระหว่างกรุงออสโลและแบร์เกน ที่นี่ มีลิฟต์สกี 20 แห่งและลานสกีอัลไพน์ 39 ลานในระดับความสูงและความยากง่ายต่างกันไป ศูนย์เกโลเลียมีลานสกี ระดับง่ายสีเขียวและฟ้า ส่วนศูนย์สลัตตามีลานสกีระดับฟ้าและแดงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีลานสกีพื้นราบ ยาว 135 ไมล์ ให้ท่านได้เดินเลนชมเมือง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง) (มื้อที่ 7)
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอม (Flam) มีความหมายว่า Little Place Between Steep Mountain ตั้งชื่อตาม ทัศนียภาพของหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาสวยงาม เป็นเมืองเล็กสวยสะกดใจในหุบเขาใจกลางดินแดนฟยอร์ ดทางตะวันตกของนอร์เวย์ Flam ตั้งอยู่ในบริเวณส่วนในสุดของ “Sognefjord” ฟยอร์ดที่ใหญ่และลึกที่สุดในโลก ความยาวกว่า 204 กม. จาก North Sea ลึกเข้ามาจนถึงแผ่นดิน ยามหน้าหนาว บรรยากาศบ้านเรือนหลังเล็ก ๆ สีสัน สะดุดตา ท่ามกลางธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน วิวทิวทัศน์สุดตระการตาของอ่าวฟยอร์ดคือไฮไลท์ จุดขายของ Flam ที่งดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง) (มื้อที่ 8)
พักค้างคืน ณ Fretheim hotel หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 3)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9)
จากนั้น ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีความยาวถึง 204 กม. จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน โดยเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ําแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน จนถึง เมืองฟลอม (ใช้เวลาล่องเรือชมความสวยงามของ ซองน์ฟยอร์ด 2 ชั่วโมงเต็ม)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)
นําท่านนั่งรถไฟ (FLAMSBANA) สายโรแมนติกสายหนึ่งในนอร์เวย์ซึ่งถูกจัดให้เป็นหนึ่งในรถไฟชมวิวทิวทัศน์ ที่ดีและสวยที่สุดในโลกโดยสมาคมผู้โดยสารรถไฟระหว่างประเทศ (The Society of International Railway) รถไฟขบวนนี้แยกตัวมาจากรถไฟสายหลัก Oslo-Bergen โดยจะเชื่อมระหว่าง Mydral ไปจนถึง Flam ซึ่งเป็นเมือง กลางหุบเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของนอร์เวย์ โดย (FLAMSBANA) นั้นถูกสร้าขึ้นครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้ง ที่ 2 ทําให้ตัวรถไฟถูกออกแบบให้คงกลิ่นอายในอดีต ตัวรถไฟสีเขียวแก่ที่มีรูปทรงลักษณะคล้ายรถไฟฮอกวอร์ต ที่หลายคนเคยเห็นในหนัง Harry Potter ภายในตกแต่งด้วยผนังไม้และเบาะที่นั่งสีแดงแกมส้มติดหน้าต่างบานใหญ่ที่พร้อมให้ทุกท่านได้ชมบรรยากาศและทิวทัศน์ตระการตาข้างทางจนกระทั่งถึงเมืองวอร์สเป็นศูนย์กลางการค้าที่สําคัญและการเดินทางทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์
จากนั้นนําท่านนั่งรถโค้ชสู่ เมืองเบอร์เกน ซึ่งเป็นเมืองที่มีหุบเขา 7 ลูกล้อมรอบอยู่ และยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ สองของประเทศรองลงมาจากกรุงออสโลด้วยประชากรราว 420,000 คนและด้วยเหตุที่เบอร์เกนมีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับต้นๆของนอร์เวย์ จึงทําให้เป็นเมืองท่าที่มีความสําคัญในประวัติศาสตร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)
พักค้างคืน ณ Scandic Bergen City หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 12)
นําท่านขึ้นรถราง Flsibanen ขึ้นไปชมวิว เมืองเบอร์เกน ณ เขาฟลอยัน (Mount Fløyen) 1 ใน 7 หุบเขาที่ ล้อมรอบเมืองเบอร์เกนเอาไว้ บนยอดเขามีจุดชมวิวบนความสูง 319 เมตร ที่สามารถเห็นเมืองเบอร์เกนและท้อง ทะเลได้แบบ 360 องศา ให้ท่านได้ชื่นชมบรรยากาศดีที่เหมาะกับการนั่งชิลชมวิวสวยๆ จากนั้นนําท่านสู่ย่าน บุรีเกน (Bryggen) หรือย่านท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์คของเบอร์เกนค่ะ ในอดีตเคยเป็นท่าเรือที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ และมีร้านค้า ร้านอาหาร สตูดิโอ และอื่นๆ อีกมากมายเปิดในบริเวณใกล้ๆ อยากคึกคัก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปีค.ศ. 1979
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารไทย) (มื้อที่ 13)
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโกล เป็นเทศบาลในBuskerudในViken เขต, นอร์เวย์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14)
พักค้างคืน ณ Pers Hotel หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 5)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนทีโรงแรม Buffet (มื้อที่ 15)
จากนั้นเดินทางสู่กรุงออสโล นําท่านเที่ยว กรุงออสโล ผ่านชมทําเนียบรัฐบาล พระบรมมหาราชวัง อาคาร สถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีต่างๆ อาทิ เนชั่นแนลเธียเตอร์ อาคารรัฐสภา และศาลาเทศบาลเมืองเก่าซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นนําท่านชมด้านหน้า ปราสาท Akurshus งานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในยุคเรอเนส ซองส์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1648 สร้างเป็นฐานบัญชาการป้องกันเมืองจากการรุกรานของชาวสวีเดน รวมถึงเคยใช้ เป็นคุกสําหรับขังนักโทษ อิสระให้ท่านถ่ายภาพด้านหน้าซึ่งตั้งอยู่ติดกับฟลอร์ทอันสวยงาม จากนั้นนําท่าน ถ่ายรูปกับ โอเปร่าเฮาส์ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยสไตล์โมเดิร์นเมื่อปี 2007 ได้รับรางวัลการออกแบบระดับโลกมากมาย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่16)
ได้เวลานัดหมายนําท่านเดินทางสู่ท่าเรือ
15.30 น.เดินทางสู่ท่าเรือเพื่อลงเรือสําราญ DFDS (Overnight Cruise) ที่พรั่งพร้อมไปด้วยร้านขายของ, ร้านค้าปลอดภาษี, ร้านอาหาร, ห้อง Sauna, Spa ฯลฯ (กรุณาเตรียมกระเป๋าสําหรับค้างคืนบนเรือ 1 คืน เพื่อความสะดวกในการ เดินทางของท่าน)
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำแบบ "สแกนดิเนเวียนบุฟเฟต์" ณ ภัตตาคารบนเรือสําราญ (มื้อที่ 17)
นําคณะพักบน เรือสําราญ SCANDINAVIAN SEAWAYS (Overnight Cruise) ห้องพักคู่แบบมีหน้าต่าง (คืนที่ 6)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนบนเรือ DSDF Buffet (มื้อที่ 18)
10.00 น. เรือเข้าเทียบท่า ณ กรุงโคเปนเฮเก้น เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กมหานครอันยิ่งใหญ่แห่งคาบสมุทร สแกนดิเนเวีย สร้างขึ้นมาอย่างยาวนานกว่า 2000 ปี นําท่านชมความงดงามของกรุงโคเปนเฮเกน เริ่มต้นโดยการ นําท่านชม เดอะลิตเติ้ลเมอร์เมด รูปปั้นเงือกน้อย สร้างด้วยสําริด นั่งอยู่บนก้อนหิน มีขนาดความสูงประมาณ 1.25 เมตร ริมอ่าวโคเปนเฮเก้น เป็นจุดท่องเที่ยวสําคัญแห่งหนึ่งของเมือง สร้างขึ้นโดยศิลปินชาวเดนมาร์ก โดยผู้ว่าจ้าง ได้รับอิทธิพลจากนิทานของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน รูปปั้นแล้วเสร็จถูกนําไปแสดงในปี ค.ศ. 1913 อิสระ ให้ท่านเก็บภาพอ่าวโคเปน เฮเก้นอันสวยงามด้วยบรรยากาศแบบสแกนแท้ ๆ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง) (มื้อที่ 19)
นําท่านสู่ ย่านนูฮาวน์ แปลว่า ท่าเรือใหม่ เดิมเป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ไว้สําหรับเรือจากทั่วทุกมุมโลกมาเทียบท่า บริเวณนี้จึงรายล้อมไปด้วยร้านอาหารและตึกรามบ้านช่องที่มีสีสันสดใส ในช่วงฤดูร้อน นูฮาวน์ เป็นที่นิยม สําหรับวัยรุ่นชาวเดนมาร์กที่นิยมมานั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ยังเป็นที่สําหรับล่องเรือชมวิวและสถานที่ต่างๆ รอบกรุงโคเปนเฮเกนได้อีกด้วยจากนั้นอิสระให้ท่านเก็บภาพบรรยากาศอันสวยงามตาม อัธยาศัยจากนั้นอิสระให้ท่านช็อปปิ้งสินค้า ย่านวอล์คกิ้งสตรีท หรือ ถนนสตรอยก์ แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของ โคเปนเฮเกน และอยู่ในใจกลางเมือง Streget เป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลกที่มีความคับคั่งของร้านค้า ตั้งแต่ สินค้าราคาถูกและสินค้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ถนนคนเดินนี้มีความยาวถึง 1.1 กิโลเมตรที่ยื่นจาก ศาลากลางไปยังถนน Kongens Nytory Streget จึงถูกตั้งเป็นชื่อเล่นของถนนคนเดินดังกล่าวตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาและครอบคลุม ถนน 4 สายด้วยกันคือ Frederiksberggade, Nygade, Vimmelskaftet และ Østergade
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 20)
พักค้างคืน ณ Scandic Hvidovre หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (คืนที่ 7)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนทีโรงแรม Buffet (มื้อที่ 21)
นําท่านชมความงามของเมือง เริ่มต้นตั้งแต่อาคารรัฐสภา, ซิตี้ฮอลล์, นิวเฮ้าส์ เขตย่านท่าเรือ ที่มีอาคารบ้านเรือน ตั้งแต่ยุคคริสต์ ศตวรรษที่ 17 เรียงรายกันอย่างสวยงาม ได้เวลาอันสมควรนําท่านสู่ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (จากด้านนอก) ที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก โดยมีพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งราชวงศ์ เดนมาร์กประทับอยู่ จากนั้นไปชมปราสาทโรเซนบอร์ก สร้างในสไตล์แบบดัชต์ – เรอเนสซองส์ อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี สร้างในศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 เพื่อเป็นสถานที่พักร้อนของราชวงศ์ นําชมรอยัลคอล เลคชั่น ที่เก็บเครื่องประดับมีค่าของราชวงศ์เดนมาร์ก มาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 อาทิ มหามงกุฎ, เครื่องประดับที่ทําจากเพชรและอัญมณีต่างๆ ของแต่ละราชวงศ์ นับเป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศเดนมาร์ก ได้เวลา นัดหมายนําท่านเดินทางสู่ สนามบินโคเปนเฮเก้น
15.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ QR6125 / QR 834 แวะพักและรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหาร และเครื่องดื่มตลอดเป็ และเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
12.05 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี....พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
1) ค่าตั๋วเครื่องบิน (ECONOMY CLASS) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกิน จํานวนวัน จํานวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกําหนด (น้ําหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้น เครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
2) ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3) ค่ารถโค้ชปรับอากาศนําเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
4) ค่า COACH TAX และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ
5) ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทําให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงความ เหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสําคัญ)
6) ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
7) ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
8) ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่) 9) ค่าบริการนําทัวร์ โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
10) ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
11) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะค่าบริการ)
1) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
2) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
3) ค่าน้ําหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม และมีจํานวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)
4) ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 1,000บาท ต่อท่าน
5) ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน
39/498 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวง สนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210